7 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเข้าตลาดหุ้น ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้
เมื่อคิดถึงการนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ หรือทำ IPO (Initial Public Offering) มันอาจจะไม่ใช่แค่การขายหุ้นเพื่อระดมทุนเท่านั้น แต่เราสามารถนำมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างมูลค่าธุรกิจในระยะยาวอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจำนวนมากยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกระบวนการ IPO ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสทองในการเติบโตในธุรกิจของตัวเองไป
สำหรับในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจ พร้อมคลาย 7 ความเชื่อผิด ๆ ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้ ก่อนที่จะทำการตัดสินใจ เข้าตลาดหุ้น
ความเข้าใจผิดที่ 1: "เข้าตลาดหุ้นต้องเป็นบริษัทใหญ่เท่านั้น"
ความจริง: บริษัทขนาดกลาง หรือ SME ที่มีรายได้มั่นคงและศักยภาพการเติบโตสูง ก็สามารถเข้าตลาดได้เช่นกัน โดยเฉพาะในตลาด MAI ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาด SME และ ธุรกิจประเภท สตาร์ทอัพ โดยเฉพาะ
ความเข้าใจผิดที่ 2: "เข้าตลาดหุ้นคือการขายกิจการ"
ความจริง: การ IPO เป็นการเปิดให้บุคคลทั่วไปถือหุ้นร่วมกับเจ้าของ ไม่ใช่เป็นการขายกิจการ เจ้าของบริษัทยังคงสามารถบริหารและควบคุมบริษัทได้ผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
ความเข้าใจผิดที่ 3: "กระบวนการ IPO ซับซ้อนเกินไป"
ความจริง: กระบวนการ IPO นั้นไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่คุณยังไม่คุ้นเคยกับเอกสาร ดังนั้นหากมี ที่ปรึกษา IPO ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ จะช่วยให้บริษัทของคุณสามารถวางแผนและบริหารกระบวนการได้อย่างเป็นระบบ อีกทั้งช่วยลดความผิดพลาด และประหยัดเวลาในการดำเนินการ
ความเข้าใจผิดที่ 4: "ไม่มีทุนมากพอจ้างที่ปรึกษา"
ความจริง: ปัจจุบันมีโมเดลการให้บริการแบบ One Stop Service สำหรับการเตรียม IPO ที่สามารถวางแผนร่วมกับแหล่งทุนหรือกองทุนร่วมลงทุนได้ เพื่อให้คุณเจ้าของธุรกิจสามารถมีเงินทุนในการดำเนินการจัดหาที่ปรึกษาเพื่อธุรกิจของคุณ
ความเข้าใจผิดที่ 5: "การเป็นบริษัทมหาชนทำให้ธุรกิจยุ่งยาก"
ความจริง: การเป็นบริษัทมหาชนนั้น ต้องมีมาตรฐานด้านบัญชี การเปิดเผยข้อมูล และธรรมาภิบาลมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจของคุณ ดูเป็นระบบ และ น่าเชื่อถือ ต่อพันธมิตรและนักลงทุนมากขึ้น เมื่อทุกอย่างเป็นระบบ และ มาตรฐาน ธุรกิจของคุณก็จะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป
ความเข้าใจผิดที่ 6: "หลังเข้าตลาดแล้วราคาหุ้นต้องขึ้นทันที"
ความจริง: ราคาหุ้นขึ้นหรือลงขึ้นกับปัจจัยหลายด้าน ทั้งแนวโน้มธุรกิจ แผนการขยาย และการสื่อสารกับนักลงทุน การเตรียม IR และแผนการตลาดหลัง IPO มีผลอย่างมากต่อการสร้างความมั่นใจ
ความเข้าใจผิดที่ 7: "ไม่จำเป็นต้องรีบเข้าตลาดตอนนี้"
ความจริง: เวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ ตอนที่ธุรกิจยังแข็งแรง เพราะการเตรียม IPO ใช้เวลา 12-18 เดือน การวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้ได้เปรียบทั้งด้านมูลค่ากิจการและความพร้อม
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจและวางแผนอย่างถูกต้อง การมีที่ปรึกษาที่เข้าใจเส้นทาง IPO ก็จะสามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวสู่ตลาดทุนอย่างมั่นคง ประหยัดต้นทุน และลดความเสี่ยง