IR (Investor Relations) สำคัญแค่ไหนกับการขายหุ้นให้สำเร็จ?
IR ที่แข็งแรง = ความเชื่อมั่นจากตลาด + การเสนอขายหุ้น IPO ที่ราบรื่น
แม้กิจการจะมีงบการเงินที่ดี หรือแผนธุรกิจที่น่าสนใจ แต่หาก ขาดการสื่อสารกับนักลงทุนอย่างมืออาชีพ ก็อาจทำให้หุ้น IPO ขายไม่หมด หรือไม่เป็นที่สนใจในตลาด
นี่คือหน้าที่ของ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations IR) ซึ่งเป็น สะพานเชื่อม ระหว่างกิจการกับตลาดทุนอย่างแท้จริง
บทบาทหลักของ IR ในการขายหุ้น IPO
- สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส และน่าเชื่อถือ
ความโปร่งใสไม่ใช่แค่ หน้าที่ตามกฎหมาย แต่เป็น หัวใจของความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
การเข้าตลาดหลักทรัพย์เปรียบเสมือนการ เปิดบ้านให้คนภายนอกเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของ ดังนั้นนักลงทุนย่อมคาดหวังว่าจะได้รับ ข้อมูลที่ครบถ้วน ชัดเจน และตรงไปตรงมา เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน โดย หน้าที่นี้เป็นของ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) โดยตรง
1) สื่อสาร ตัวเลข และ สาระสำคัญ ให้เข้าใจง่าย
- นักลงทุนไม่ได้มองแค่ รายได้กับกำไร แต่สนใจว่า ตัวเลขเหล่านั้นมาจากไหน?, ยั่งยืนหรือไม่?, มีปัจจัยอะไรที่ทำให้โตหรือหดตัว?
IR ต้องแปล งบการเงิน ให้นักลงทุนเข้าใจในเชิงธุรกิจ
2) มีวินัยในการเปิดเผยข้อมูล (Disclosure Discipline)
- ต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญตามระยะเวลา เช่น งบการเงินไตรมาส, การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น, การลงนามสัญญาใหม่ที่มีสาระสำคัญ
- ต้องไม่เลือกเปิดเผยเฉพาะ ข่าวดี หรือ เฉพาะกับบางกลุ่ม
3) เตรียมเอกสารสำหรับนักลงทุนให้พร้อมและเป็นมืออาชีพ
- เอกสารสำคัญที่ IR ควรมี Investor Presentationม Company, Fact Sheet, Q&A เชิงกลยุทธ์, Disclosure Policy
4) สร้างความน่าเชื่อถือผ่านความสม่ำเสมอและความจริงใจ
- นักลงทุนสามารถ จับทาง ได้หากบริษัทพูดไม่ตรงกับความจริง หรือหลบเลี่ยงคำถาม
- IR ที่ดีต้องกล้าให้ข้อมูลแม้ในเรื่องที่เป็นความเสี่ยง เช่น ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบ, คู่แข่งที่รุกตลาด, ความล่าช้าในแผนโครงการ
การยอมรับความเสี่ยงอย่างตรงไปตรงมา จะช่วยสร้าง ความเชื่อมั่น มากกว่าการพูดให้ดูดีแต่ไม่ตรงข้อเท็จจริง - เตรียมความพร้อมก่อน Roadshow และ One-on-One
เพราะ การพูดให้คนเชื่อ ต้องมีมากกว่าแค่ตัวเลขสวย ต้องมีการเตรียมเนื้อหา กลยุทธ์ และภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ
ในการนำหุ้นออกเสนอขาย (IPO) บริษัทต้องจัดกิจกรรม Roadshow และ One-on-One Meeting เพื่อพบปะนักลงทุนรายใหญ่ สถาบัน และนักวิเคราะห์ เป้าหมายคือสร้าง ความเชื่อมั่น ให้เกิดขึ้นก่อนวันเสนอขายจริง ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของฝ่าย IR ร่วมกับผู้บริหาร
> IR ช่วยผู้บริหาร เล่าเรื่องธุรกิจ ให้กระชับ น่าสนใจ และตอบโจทย์นักลงทุน
> ฝึกซ้อมตอบคำถามที่พบบ่อย เช่น แผนการเติบโต?, การจัดการความเสี่ยง?, ทำไมบริษัทคุณถึงควรลงทุนตอนนี้? - บริหารภาพลักษณ์ของบริษัทในสายตาตลาดทุน
เพราะ การลงทุน เริ่มต้นจาก ความเชื่อมั่น ไม่ใช่แค่ตัวเลข
ในตลาดทุน ภาพลักษณ์ของบริษัท (Corporate Image) มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนพอ ๆ กับงบการเงิน นักลงทุนไม่ได้ลงทุนแค่ใน ผลประกอบการปัจจุบัน แต่ลงทุนใน วิสัยทัศน์ ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือในอนาคต ซึ่งล้วนมาจาก สิ่งที่บริษัทสื่อสารออกไป ผ่านบทบาทของ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ (IR)
1) ภาพลักษณ์ที่ดีสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว
- บริษัทที่มีภาพลักษณ์โปร่งใส มีธรรมาภิบาล มีทีมผู้บริหารมืออาชีพ จะได้รับความสนใจจาก นักลงทุนสถาบัน (Institutional Investors), นักวิเคราะห์หลักทรัพย์, สื่อเศรษฐกิจ / สื่อการเงิน
- ภาพลักษณ์เหล่านี้มีผลโดยตรงต่อ ราคาเสนอขาย IPO (Valuation), ความต้องการซื้อหุ้น (Oversubscription), ราคาหุ้นหลังเข้าตลาด (Aftermarket Price Stability)
2) IR คือ กระบอกเสียงหลัก ของบริษัท
- ในสายตาตลาดทุน บริษัทที่ไม่มีฝ่าย IR หรือไม่มีการสื่อสารชัดเจน = บริษัทที่ ไม่เปิดเผย ไม่โปร่งใส
- IR ต้องดูแลการ ออกข่าวสารทางการเงินและธุรกิจให้ถูกต้อง ทันเวลา, ตอบข้อสงสัยจากนักวิเคราะห์อย่างมืออาชีพ, จัดกิจกรรมพบปะนักลงทุน (Analyst Briefing, Opportunity Day)
3) จัดการข่าวลือและข้อมูลคลาดเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว
- หากบริษัทมีข่าวลือ เช่น การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร / รายได้ลดลง / โครงการล่าช้า IR ต้องเป็นคน ออกหน้าชี้แจง อย่างมีข้อมูลรองรับ, ป้องกันความเสียหายต่อความเชื่อมั่นและราคาหุ้นในตลาด
- การนิ่งเฉยหรือปล่อยให้ข่าวลือกระจาย จะกระทบต่อ perception และ valuation ทันที
> IR เป็นเหมือน โฆษกมืออาชีพ ของกิจการ
> สร้างความมั่นใจว่าบริษัทมีวินัยในการเปิดเผยข้อมูล (Disclosure Discipline)
> ช่วยป้องกันข่าวลือ หรือความเข้าใจผิดจากสื่อ/ตลาด
4) สื่อสารคุณค่า (Value Proposition) ที่ชัดเจน
- IR ต้องสื่อให้ตลาดเข้าใจว่า บริษัทกำลังเติบโตไปในทิศทางใด, อะไรคือจุดเด่นที่แตกต่าง (Key Differentiator), วิสัยทัศน์ของผู้บริหารคืออะไร และแผนการระยะยาวจะพาบริษัทไปถึงจุดใด
- ยิ่ง IR สื่อสารภาพรวมและกลยุทธ์ให้ตลาดเข้าใจได้ง่ายเท่าไร บริษัทจะได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนระยะยาวมากขึ้นเท่านั้น - เชื่อมต่อกับนักลงทุนสถาบัน (Institutional Investor)
เพราะ หุ้นดี ไม่เพียงพอ ถ้าไม่มี คนสนใจ ที่มีน้ำหนักในการตัดสินใจลงทุน
นักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนรวม (Asset Management), บลจ., บริษัทประกัน, กองทุนต่างประเทศ, Sovereign Fund ฯลฯ คือกลุ่มนักลงทุนที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จของ IPO อย่างยิ่ง เพราะมีทั้ง เงินลงทุนจำนวนมากม, มุมมองระยะยาว, ความสามารถในการสร้างแรงจูงใจให้รายย่อยตาม
ฝ่าย IR มีหน้าที่ในการ สร้างและดูแลความสัมพันธ์กับนักลงทุนสถาบัน ตั้งแต่ช่วง Pre-IPO, Roadshow, ไปจนถึงหลังการเข้าตลาด (Post-Listing)
> นักวิเคราะห์และกองทุนรายใหญ่ต้องการ ข้อมูลลึก-เร็ว-แม่น
> IR ที่ดีสามารถตอบข้อสงสัยเชิงลึกทางการเงิน เช่น Gross Margin ราย Segment, รายจ่ายลงทุนในอนาคต, Sensitivity ต่อราคาต้นทุนวัตถุดิบ
IR ที่ดี = หุ้นที่มีความน่าเชื่อถือ + ราคาหุ้นมั่นคง + การขายหุ้น IPO สำเร็จ
การมีทีม IR ที่เข้มแข็งจึงไม่ใช่ ทางเลือก แต่คือ กลยุทธ์สำคัญ สำหรับบริษัทที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืนในสายตานักลงทุน จะเป็นกลไกสำคัญที่เชื่อมระหว่าง กิจการกับนักลงทุนในตลาดทุน โดยเฉพาะในช่วงเตรียม IPO ซึ่งการสื่อสารของ IR สามารถส่งผลโดยตรงต่อ ความเชื่อมั่นของตลาด และ ความสำเร็จของการเสนอขายหุ้น
DE Business Advisory พร้อมให้คำปรึกษาและวางระบบ IR ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงการเทรนนำเสนอระดับมืออาชีพ เพื่อให้บริษัทของคุณไม่เพียงแค่ เข้าตลาดได้ แต่ เป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทยอย่างแท้จริง
"เราไม่ได้เป็นแค่ที่ปรึกษา แต่เราเป็น เพื่อนร่วมทาง ที่มีทั้งทุน คน และระบบ พร้อมจะเดินไปกับคุณจนถึงวันเข้าตลาดหลักทรัพย์"
ติดต่อเราได้ที่
โทร. 098-969-4455 (คุณภูดิศ สุธีรัชตกุล)
www.degroupadvisory.com