5 รายการที่ธุรกิจต้องบันทึกบัญชีทุกเดือน
สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ การบันทึกบัญชีอาจดูเป็นเรื่องซับซ้อนหรือไกลตัวในช่วงเริ่มต้น แต่ในความเป็นจริง นี่คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสถานะทางการเงินของกิจการได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย กำไร เงินสดในมือ หรือภาระภาษีที่ต้องชำระ การบันทึกบัญชีอย่างถูกต้องยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย วางแผนการเงินได้แม่นยำ และลดความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ธุรกิจที่มีบัญชีดี ย่อมพร้อมเติบโตอย่างมั่นคง
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 รายการบัญชีพื้นฐานที่ควรบันทึกทุกเดือน ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเปิดร้านใหม่ ขายออนไลน์ หรือให้บริการแบบฟรีแลนซ์ ก็สามารถนำไปใช้ได้ทันที
- รายการรายรับ (Income)
รายรับ คือเงินที่ธุรกิจได้รับจากการขายสินค้า หรือให้บริการในแต่ละเดือน ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สุดที่ต้องบันทึกอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์กำไรขาดทุน และการคำนวณภาษี
ตัวอย่างรายการที่ควรบันทึก
- ยอดขายสินค้าหน้าร้าน / ออนไลน์
- รายได้จากการให้บริการ (เช่น ค่าคอร์สอบรม, ค่าแรงช่าง)
- รายได้อื่น ๆ เช่น ค่าเช่าทรัพย์สิน ดอกเบี้ยรับ
สิ่งที่ควรแนบประกอบ
- ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี
- หลักฐานการรับเงิน เช่น สลิปโอนเงิน, รายการเดินบัญชี
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการรวมรายได้ส่วนตัวเข้ากับรายได้กิจการ
- บันทึกยอดขายให้ตรงกับวันรับเงินจริง เพื่อตรวจสอบกระแสเงินสดได้ถูกต้อง
- หากออกใบกำกับภาษี ต้องบันทึกแยกยอด VAT ให้ชัดเจน (ในกรณีจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) - รายการรายจ่าย (Expenses)
รายจ่าย คือค่าใช้จ่ายที่ธุรกิจต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายสำนักงาน หรือแม้แต่ค่าขนส่งต่าง ๆ รายจ่ายเหล่านี้สามารถนำไปใช้เป็นต้นทุนในการคำนวณกำไร และใช้หักภาษีได้หากมีเอกสารประกอบถูกต้อง
ตัวอย่างรายจ่ายที่ควรบันทึก
- ค่าวัตถุดิบ / สินค้า: เช่น วัตถุดิบชงกาแฟ, ของขายหน้าร้าน
- ค่าแรง / ค่าจ้าง: เช่น พนักงานรายเดือน หรือฟรีแลนซ์
- ค่าสาธารณูปโภค: ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต
- ค่าเช่าสำนักงาน / ร้านค้า
- ค่าโฆษณา / ค่าการตลาด: เช่น ยิงแอด Facebook, ทำป้ายร้าน
- ค่าเดินทาง / ค่าขนส่งสินค้า
- ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ: ค่าซ่อมแซม ค่าธนาคาร ฯลฯ
เอกสารที่ควรเก็บไว้ประกอบการบันทึก
- ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี
- บิลเงินสด
- สลิปโอนเงิน หรือรายการเดินบัญชี
ข้อควรระวัง
- รายจ่ายใด ๆ ที่ไม่มีหลักฐาน อาจไม่สามารถนำมาหักภาษีได้
- หลีกเลี่ยงการใช้เงินส่วนตัวจ่ายรายจ่ายของกิจการโดยไม่แยกบัญชี
- ถ้ามีการหักภาษี ณ ที่จ่าย (เช่น ค่าจ้างฟรีแลนซ์) ควรจัดทำใบหักภาษีให้ถูกต้อง - รายการสินค้าคงเหลือ (Inventory)
สินค้าคงเหลือ คือจำนวนสินค้า วัตถุดิบ หรือวัสดุที่ยังไม่ได้ขายหรือใช้หมด ณ สิ้นเดือน การบันทึกสินค้าคงเหลืออย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณรู้ต้นทุนที่แท้จริงของธุรกิจ วางแผนการสั่งซื้อได้แม่นยำ และยังช่วยลดการสูญเสียจากสินค้าหาย เสื่อมสภาพ หรือหมดอายุ
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการประมาณจำนวนด้วยสายตา ควรนับจริง
- ต้องแยกสินค้าเสีย/หมดอายุ ออกจากสินค้าที่ขายได้
- หากใช้วิธี FIFO (ของเก่าขายก่อน) หรือ Average Cost ควรใช้ให้สอดคล้องในการบันทึกบัญชีทุกเดือน - รายการลูกหนี้และเจ้าหนี้การค้า (AR/AP)
ในโลกธุรกิจ ไม่ใช่ทุกการขายจะได้เงินสดทันที และไม่ใช่ทุกการซื้อจะจ่ายเงินสดทันทีเช่นกัน การบันทึกรายการ ลูกหนี้การค้า (AR) และ เจ้าหนี้การค้า (AP) ช่วยให้เจ้าของกิจการรู้ว่า ใครยัง ค้างจ่ายเงิน กับเรา และเรายัง ติดหนี้ ใครอยู่ การติดตามอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้คุณ วางแผนกระแสเงินสดได้แม่นยำ และลดความเสี่ยงจากหนี้เสียหรือจ่ายเงินล่าช้า
- ลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable - AR)
คือเงินที่ลูกค้ายังไม่ได้จ่ายให้เรา (มักเกิดจากการขายแบบเครดิต)
ตัวอย่าง คุณขายสินค้าจำนวน 10,000 บาท ให้ลูกค้า A โดยให้เครดิต 30 วัน ณ วันสิ้นเดือน ลูกค้ายังไม่จ่าย ถือว่าเป็นลูกหนี้การค้า
- เจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable - AP)
คือเงินที่คุณยังไม่ได้จ่ายให้คู่ค้า หรือผู้ขาย (จากการซื้อแบบเครดิต)
ตัวอย่าง คุณสั่งวัตถุดิบ 15,000 บาทจากผู้ขาย โดยจะจ่ายภายใน 15 วัน ณ วันสิ้นเดือนยังไม่ได้จ่าย ถือว่าเป็นเจ้าหนี้การค้า
ข้อควรระวัง
- อย่าลืมตามเก็บลูกหนี้ให้ตรงเวลา ลดโอกาสเกิดหนี้สูญ
- อย่าลืมจ่ายเจ้าหนี้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้เสียเครดิตทางธุรกิจ
- ควรมีระบบแจ้งเตือน (เช่น Google Calendar หรือ Excel) สำหรับครบกำหนดจ่ายรับเงิน
- หากมีลูกค้าหรือคู่ค้าเยอะ ควรใช้โปรแกรมบัญชีในการจัดการจะสะดวกกว่า - การบันทึกภาษี (Tax Recordings)
การจัดทำบัญชีที่ดี ไม่ได้จบแค่การรู้รายรับ-รายจ่าย แต่ยังต้อง จัดการเรื่องภาษีอย่างถูกต้องและตรงเวลา ด้วย เพราะภาษีคือภาระสำคัญของทุกกิจการ ไม่ว่าจะจดทะเบียนเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล การบันทึกภาษีอย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณ ยื่นภาษีได้ถูกต้อง และ ลดความเสี่ยงจากค่าปรับหรือดอกเบี้ยจากกรมสรรพากร
ประเภทของภาษีที่ควรบันทึกเป็นประจำ
1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)
3. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax)
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ใบกำกับภาษีที่ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- หากยื่นภาษีล่าช้า จะมีค่าปรับ + ดอกเบี้ย
- บันทึกภาษีไม่ถูกต้อง อาจถูกสรรพากรตรวจสอบย้อนหลัง
การบันทึกบัญชีอาจดูเป็นเรื่องยุ่งยากในสายตาของเจ้าของธุรกิจมือใหม่ แต่ถ้าคุณเริ่มต้นอย่างถูกวิธีและมีวินัยในการจัดเก็บข้อมูลเป็นประจำทุกเดือน ทั้ง 5 รายการที่กล่าวมา รายรับ รายจ่าย สินค้าคงเหลือ ลูกหนี้เจ้าหนี้ และภาษี จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง โปร่งใส และพร้อมรับมือกับการตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐ
ยิ่งรู้บัญชีดี ยิ่งบริหารธุรกิจได้อย่างมั่นใจ
หากคุณยังไม่มีระบบบัญชีที่เป็นทางการ หรืออยากเริ่มต้นด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เช่น Excel หรือโปรแกรมบัญชีเบื้องต้น อย่าลังเลที่จะเริ่มวันนี้ เพราะ ความสำเร็จทางธุรกิจ เริ่มต้นจากบัญชีที่ดี
ปรึกษาทีมบัญชีมืออาชีพจาก DE Accounting วันนี้ เพื่อให้ธุรกิจคุณมั่นคง ปลอดภัย และเติบโตอย่างยั่งยืน
ติดต่อเรา ได้ที่ 02-126-0650